รวมสาเหตุที่ทำให้การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 เป็นการแข่งขันที่เงียบที่สุดในประวัติศาสตร์

การแข่งขันฟุตบอลโลกนั้นเป็นรายการใหญ่ที่คนทั่วทั้งโลกต่างเฝ้าคอย เพราะมันเป็นโอกาสที่ทีมชาติของตนเองจะสามารถคว้าแชมป์โลกเป็นเกียรติยศสูงสุดได้สำเร็จ หากพลาดโอกาสนี้ไปก็ต้องรออย่างยาวนานถึง 4 ปีเลยทีเดียวกว่าจะสามารถกลับมาแก้มือได้อีกครั้ง ทุกครั้งที่มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกมันจึงเหมือนกับนิทรรศการและงานเทศกาลที่โทษทั้งโลกจะออกมาเฉลิมฉลองและให้ความสนใจ แต่ไม่ใช่กับการแข่งขันฟุตบอลโลก 202 ที่ผ่านมาแต่อย่างใด การแข่งขันในครั้งนี้เงียบเหงาเป็นพิเศษอย่างน่าเหลือเชื่อทั้งที่มันเป็นการแข่งขันรายการใหญ่รายการแรกๆ ที่ถูกจัดขึ้นหลังจากที่ทั่วทั้งโลกต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 แถมในครั้งนี้ประเทศเจ้าภาพอย่างกาตาร์นั้นยังทุ่มงบประมาณเป็นจำนวนมากกว่า 2.2 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเนรมิตทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้ แต่สุดท้ายแล้วการแข่งขันในครั้งนี้กลับจบลงอย่างเงียบงัน คนที่ไม่ได้ติดตามข่าวกีฬาฟุตบอลอาจจะยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าปีนี้ทีมที่คว้าแชมป์ได้สำเร็จคืออาร์เจนตินาของลิโอเนล เมสซีเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ที่เพิ่งได้รางวัลแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในช่วงบั้นปลายสุดท้ายของอาชีพตนเอง เราจึงจะพาทุกคนไปดูกันว่าสาเหตุที่ทำให้การแข่งขันในครั้งนี้เงียบมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นจากอะไร

1.ฤดูที่ต่างออกไป โดยปกติแล้วการแข่งขันฟุตบอลโลกนั้นมักจะถูกจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อน แต่เพราะประเทศเจ้าภาพของเราเป็นประเทศกาตาร์ที่มีอากาศร้อนตลอดทั้งปี มันคงไม่ดีแน่หากให้นักกีฬาที่มาจากประเทศเมืองหนาวต้องมาเผชิญกับอากาศร้อนจนกลายเป็นลมแดดคาสนาม ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการเลื่อนการแข่งขันออกไปจัดในช่วงฤดูหนาวแทน ถึงแม้ว่าตอนแรกเจ้าภาพจะมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถสร้างสนามฟุตบอลติดแอร์ได้สำเร็จ แต่สุดท้ายแล้วสนามที่ถูกสร้างขึ้นก็ยังคงเป็นสนามเปิดเหมือนเดิมอยู่ดี นอกจากนี้มันยังเป็นการจัดการแข่งขันขั้นกลางระหว่างการแข่งขันรายการยุโรปที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นมากกว่าอีกด้วย นักกีฬาเองก็ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เพราะทุกการแข่งขันก็ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญกับตนเองทั้งสิ้น

2.เสื่อมเสียชื่อเสียง การแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้กาตาร์มาพร้อมกับความฉาวโฉ่อย่างถึงขีดสุด ทราบหรือไม่ว่าการแข่งขันในครั้งนี้จะต้องสังเวยชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมากจนทำให้ประเทศกาตาร์ถูกประณามจากทุกฝ่ายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยผ่านมา พวกเขามีประเด็นการคอรัปชั่นเพื่อให้ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพ มีการรายงานข่าวว่าทางประเทศจ้างอดีต CIA สอดแนวข้อเสนอของคู่แข่งเพื่อล็อบบี้ผู้ที่จะได้เป็นเจ้าภาพกันเลยทีเดียว แต่เหตุการณ์ที่หนักหนามากที่สุดก็คือการละเมิดสิทธิมนุษยชนของแรงงานต่างชาติที่ถูกเกณฑ์มาใช้แรงงานจากหลายๆ ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นประเทศยากจนอย่างเช่นเคนยา ปากีสถาน อินเดีย และเนปาล แรงงานเหล่านี้ต้องทำงานหนักเกินกว่าชั่วโมงตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ แถมพวกเขายังไม่ได้รับการดูแลอย่างที่ควรจะเป็นอีกด้วย จนถึงตอนนี้แรงงานที่ต้องเสียชีวิตไปจากการก่อสร้างสนามฟุตบอลก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด

3.การแบ่งแยกผู้คน ที่หนักหนามากที่สุดสำหรับการแข่งขันในครั้งนี้อีกหนึ่งอย่างก็คือการที่ประเทศเจ้าภาพอย่างประเทศกาตาร์ถูกปกครองด้วยกฎหมายของศาสนาอิสลามที่ไม่ยอมรับความหลากหลายทางเพศและนับว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ถึงพวกเขาจะยืนยันว่ายินดีต้อนรับแฟนบอลทุกเพศแต่ถึงอย่างนั้นก็มีแฟนบอลเป็นจำนวนมากที่รู้สึกกังวลและไม่กล้าที่จะเดินทางมารับชมการแข่งขัน เพราะสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครสามารถรับประกันความปลอดภัยได้แต่อย่างใด ไม่เพียงเท่านั้นค่าครองชีพในประเทศก็ยังสูงจนทำให้มีเพียงแค่ไม่กี่คนบนโลกใบนี้เท่านั้นที่จะสามารถเดินทางไปรับชมการแข่งขันในประเทศดินแดนทะเลทรายแห่งนี้ได้ ยังไม่รวมไปถึงการห้ามจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันมีเพศสัมพันธ์กัน เราต้องไม่ลืมว่าการแข่งขันฟุตบอลโลกเปรียบเสมือนกับเทศกาลที่ทุกคนจะมาสนุกสนานแบบสุดเหวี่ยง ข้อจำกัดเหล่านี้มันเลยทำให้การแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ไม่สนุกและน่าสนใจเท่าที่ควร

เครดิตโดย : ufa365 ทางเข้า