คะแนนอันดับ FIFA RANKING คำนวณอย่างไร ต้องทำอย่างไรหากทีมชาติไทยต้องการมีอันดับที่ดีขึ้น
เชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกเจ็บปวดใจไม่น้อยเลยทีเดียวกับการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกก่อนที่การแข่งขันรอบสุดท้ายจะเริ่มต้นขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันในโซนเอเชียที่ทีมชาติไทยของเรานั้นมีผลงานตกต่ำอย่างน่าใจหาย เรียกได้ว่าเป็นอีก 1 ปีที่แฟนบอลชาวไทยต้องเผชิญหน้ากับความผิดหวังหลังจากที่ทีมชาติไทยของเรานั้นมีผลงานย่ำแย่กว่าที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้ แต่การตกรอบฟุตบอลโลกรอบแบ่งกลุ่มโซนเอเชียตั้งแต่เนิ่นๆ นั้นไม่ได้เพียงแค่ส่งผลกระทบให้ทีมชาติไทยของเราไม่มีลุ้นเข้าร่วมกันแข่งขันฟุตบอลโลกรอบที่ลึกขึ้นกว่าเดิมแล้ว มันยังส่งผลให้อันดับ FIFA RANKING ของทีมชาติไทยตกต่ำอย่างน่าเหลือเชื่ออีกต่างหาก ในช่วงเวลานั้นทีมชาติไทยกลายเป็นทีมที่มีอันดับ FIFA RANKING ตกมากที่สุดในโลกกันเลยทีเดียว วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปขายคำตอบกันว่าการนับคะแนนของฟีฟ่าเพื่อจัดอันดับ FIFA RANKING นั้นมีวิธีการอย่างไร และทีมชาติไทยของเราจะต้องทำอย่างไรหากต้องการให้มีอันดับโลกที่ดีขึ้นกว่าเดิม วิธีการคำนวณคะแนนเพื่อจัดอันดับ FIFA RANKING นั้นประกอบไปด้วย
การดูผลการแข่งขัน หากเราสามารถคว้าชัยชนะได้ในเวลา 90 นาทีหรือ 120 นาทีโดยที่ไม่มีการยิงลูกจุดโทษ เราจะได้รับทั้งหมด 3 คะแนน หากเป็นการคว้าชัยชนะได้สำเร็จด้วยการยิงลูกจุดโทษก็จะได้รับ 2 คะแนน หากเราเสมอในเวลาหรือแพ้จุดโทษหลังจากเสมอในเวลาแล้วก็จะได้รับ 1 คะแนน แต่หากเราแพ้ก็จะไม่ได้สักคะแนนเดียว
นำผลไปคูณกับค่าความสำคัญของการแข่งขัน การแข่งขันในแต่ละแมตช์นั้นจะมีความสำคัญที่ไม่เท่ากันแต่อย่างใด ยิ่งเป็นรายการแข่งขันที่มีความสำคัญมากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้รับการนำเอาคะแนนไปคูณมากขึ้นเท่านั้น การแบ่งความสำคัญนั้นจะแบ่งตั้งแต่การแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรที่มีการใช้ทีมชาติชุดใหญ่ลงสนามและ FIFA ได้รับรองผลการแข่งขัน อย่างเช่นรายการแข่งขันที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยมักจะจัดขึ้นอยู่เสมอเพื่อให้อันดับ FIFA RANKING ของเราดีขึ้นอย่างรายการ INTERNATIONAL A MATCH จะได้แค่คูณ 1.0 เท่านั้น หากเป็นการแข่งขันระดับทวีปในรอบคัดเลือกหรือการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกก็จะได้คูณ 2.5 หากเป็นการแข่งขันในระดับทวีปอย่างเช่นรายการยูโรหรือเอเชียนคัพก็จะได้คูณ 3.0 และสุดท้ายก็คือการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายก็จะได้คูณสูงสุดที่ 4.0 เลยทีเดียว
นำเอาคะแนนที่ได้จากข้อ 2 มาคูณด้วยค่าความแข็งแกร่งของคู่แข่ง สูตรการคำนวณค่าความแข็งแกร่งของคู่แข่งก็คือ 200 ลบอันดับของคู่แข่ง หารด้วย 100 อย่างเช่นเราแข่งขันกับคู่แข่งขันที่อยู่บนอันดับที่ 8 ค่าความแข็งแกร่งของคู่แข่งก็จะเท่ากับ 200 - 8 / 100 ค่าที่ได้ก็จะเท่ากับ 1.92 FIFA จะนำเอาคะแนนที่เราได้จากข้อ 2 มาคูณด้วยจำนวนดังกล่าวแล้วจะออกมาเป็นคะแนนในขั้นตอนที่ 3
นำเอาคะแนนที่ได้จากข้อ 3 มาคูณเข้ากับค่าความแข็งแกร่งของโซนในการแข่งขันรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกของทีมคู่แข่ง หากอยู่ในโซนอเมริกาใต้จะได้คูณ 1.0 หากอยู่ในโซนยุโรปก็จะได้คูณ 0.99 หากอยู่ในโซนคอนคาเดฟ โซนแอฟริกา โซนเอเชีย และโซนโอเชียเนียก็จะได้คูณ 0.85 แต่อย่างไรก็ตามหากเราได้แข่งขันกับทีมที่อยู่ในโซนเดียวกันก็จะถูกคูณตามค่าความแข็งแกร่งของทีมในโซนนั้น แต่หากอยู่กันคนละโซนก็จะคิดจากค่าความแข็งแกร่งของโซนโดยใช้ค่าเฉลี่ย อย่างเช่นหากทีมจากอเมริกาใต้มาพบกับทีมจากโซนยุโรปค่าความแข็งแกร่งก็จะได้เท่ากับ 1 + 0.99 / 2 เท่ากับ 0.995 นั่นเอง
นำเอาคะแนนที่ได้มาคูณ 100 ขั้นตอนสุดท้ายที่เราจะได้รู้กันแล้วว่าทีมชาติของเรานั้นมีคะแนนที่เท่าไหร่และจะถูกนำเอาไปจัดอันดับ FIFA RANKING ก็คือนำเอาคะแนนที่ได้จากข้อ 4 มาคูณเข้ากับ 100
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นขั้นตอนการคำนวณคะแนนเพื่อจัดอันดับทีมฟุตบอลใน FIFA RANKING เพื่อดูว่าทีมชาติไหนมีความแข็งแกร่งและมีผลงานที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดในโลก คะแนนดังกล่าวนั้นไม่ได้เพียงแค่ใช้บอกความเก่งกาจของทีมฟุตบอลแต่อย่างใด แต่มันยังส่งผลกับการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มในการแข่งขันรอบคัดเลือกของฟุตบอลโลกอีกด้วย ดังนั้นการแข่งขันทุกนัดหากเป็นระดับ INTERNATIONAL A MATCH ขึ้นไปไม่ว่าจะเป็นเกมอุ่นเครื่องหรือเกมที่มีการจัดรายการแข่งขันขึ้นมาอย่างจริงจังก็ตามล้วนแล้วแต่มีความหมายทุกเกม หากทีมชาติไทยของเราต้องการที่จะประสบความสำเร็จในเวทีโลกให้ได้ 1 ในสิ่งสำคัญที่พวกเขาจะต้องทำก็คือการไต่อันดับ FIFA RANKING ให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ และวิธีการนั้นง่ายนิดเดียวนั่นก็คือคว้าชัยชนะให้สำเร็จนั่นเองเพราะยิ่งชนะได้มากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งได้คะแนนมากขึ้นเท่านั้น หากเราสามารถคว้าชัยชนะเหนือทีมที่อยู่ในโซนที่แข็งแกร่งได้สำเร็จ คะแนนของเราก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ซึ่งประเด็นดังกล่าวก็ยังคงเป็นปัญหาของวงการฟุตบอลไทยที่ยังคงต้องแก้ไขกันต่อไปจนถึงในปัจจุบัน
อ่านประวัติเพิ่มเติม :: ประวัติเคอร์ติสโจนส์
Comments